Tuesday, May 3, 2016

คุณแม่ติดช้อปออนไลน์ แก้ปัญหาอย่างไรดี?



"Fค่ะ*!... ในโลกของการช้อปปิ้งในยุคนี้ง่ายดายเพียงกดปุ่มF ที่คีย์บอร์ด" การจับจ่ายซื้อของในปัจจุบันมีให้เลือกหลายช่องทาง มากจนหาที่ว่างแทบไม่มี เดินไปทางไหนหันไปทางไหนมีแต่ของสวยๆงามๆ แม้กระทั่งก้มหน้านิ้วจิ้มก็ยังซื้อของได้ แบบนี้หรือเปล่าที่เรียกว่า "บ้าช้อป" คุณแม่หลายๆคนคงมีพฤติกรรมนี้อยู่และแก้ปัญหาไม่ได้สักที เนื่องจากความน่ารักของเสื้อผ้า รองเท้า หมวก เครื่องประดับต่างๆ เมื่อถูกโยงเข้ากับความน่าเอ็นดูไร้เดียงสาแล้ว มันช่างเข้ากันได้ดีจริงๆ พฤติกรรมการเสพสินค้าออนไลน์เกิดขึ้นจากอะไร มากเกินไปจะมีผลอย่างไร และแก้ปัญหาได้อย่างไรไม่ให้รู้สึกเหมือนว่า "มากเกินไปรึเปล่า"

วิเคราะห์พฤติกรรม:

1. พฤติกรรมทดแทนปมด้อยในวัยเยาว์ หมายถึงในวัยเด็กอาจไม่ค่อยมีของเล่นที่ได้จากการซื้อมากนัก อาจมีแค่เพียงของเล่นเอามาประยุกต์เอง เช่น กระป๋องนมเอามาเจาะทำฝักบัว แกนในทิชชู่เอามากล้องส่องทางไกล เสื้อผ้าของใช้ที่มีได้มาจากการทำขึ้นเองแบบง่ายๆปักๆเย็บๆต่อๆตอกๆเมื่อมีโอกาสจึงสรรหาทุกสิ่งทุกอย่างมาทดแทนความรู้สึกที่ขาด

2. ชอบของใหม่ ของเล่นที่เคยมีอาจไม่ล้ำนำสมัยได้แต่ของมือสอง มีคนให้มา หรือต่อจากของพี่หรือเพื่อนแบ่งให้จึงไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่เป็นของตนเอง

3. มีของเล่น ของใช้ เสื้อผ้าน้อยชิ้นแต่ต้องใช้ ใส่ให้นานที่สุดซ่อมแล้วซ่อมอีก วนกลับมาใช้ใหม่อยู่ตลอดเวลา

4. ในมุมกลับกันทั้งหมด ถูกปลูกฝังมาจากการเลี้ยงดูท่ีผิดๆ เคยได้ตลอดเวลา มีของใหม่อยู่เสมอ เป็นที่1ตลอดเวลา จึงมาถึงคำว่าไม่เคยพอผิดกับข้อ1-3ที่เรียกว่าแทบจะไม่ค่อยได้มี

5. ชอบดูสื่อโฆษณาที่คอยกระตุ้นความอยากได้อยากมี นั่งดูไปก็ย้ำไปว่าทำอย่างไรให้ได้มาครอบครอง

6. ขาดความยั้งคิดในจุดที่เรียกว่าพอ

7. เมื่อได้ของใหม่มาสักชิ้น มักได้รับคำชมว่าสวย เลือกเก่ง เหมาะดี เลยทำให้รู้สึกว่าเป็นผู้สันทัดกรณีในการเลือกหา จึงมักนิยมของใหม่มากกว่าของมือสอง หรือมีคนให้

8. บ้านมีฐานะมีกำลังพอที่จะซื้อหาได้รวมไปถึงสื่อที่มีตอนนี้ก็ง่ายแก่การซื้อ สะดวกโอนเมื่อมีการใช้บริการธุรกรรมทางอินเตอร์เนท

ผลเสียของการมีอุปนิสัยซื้อง่ายจ่ายคล่อง:

1. เงินออมลดลงหรือแทบไม่มี บางครั้งอาจชักหน้าไม่ถึงหลัง มีหนี้สินล้นตัว เกิดการกู้หนี้ยืมสิน
2. มักถูกมองว่าใช้เงินเก่งซึ่งทั้งๆที่บางทีก็อาจบริหารเงินได้ดีอยู่แล้ว
3. สุขภาพจิตบั่นทอนเนื่องด้วยมีความต้องการอยากได้อยู่ตลอดเวลา บางรายอาจเป็นมากจนถึงขั้นต้องปรึกษาจิตแพทย์ถึงพฤติกรรมการซื้อของ
4. ไม่สามารถทำกิจกรรมอื่นได้อย่างมีสมาธิ เนื่องจากจดจ่ออยู่กับการมองหาสิ่งที่ต้องการตลอดเวลา
5.สุขภาพเสีย กล้ามเนื้อไม่ได้รับการใช้งานที่ถูกต้อง สายตาเสียจากการจ้องมองเป็นเวลานานบนหน้าจอ รีบทานรีบดื่มเพื่อจะมาเฝ้าหน้าจอ
5.ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ ทำให้บกพร่องในหน้าที่การงานไป
6.เสียเวลามากเกินความจำเป็น
7. เปลืองไฟเนื่องจากต้องใช้คอมฯ ใช้โทรศัพท์มือถือ สัญญานเน็ทตลอดเวลา

อาจแก้ปัญหาได้ดังนี้

1.ลดเวลา/จำกัดเวลาในเล่นคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เพื่อการซื้อของ เปลี่ยนเวลาที่หายไปจากการลด/จำกัดไปหากิจกรรมอื่นทำ ทำความสะอาดบ้าน จัดบ้าน สันทนาการต่างๆ

2. ตั้งเป้าหมายว่าจะเข้ามาดูอะไร เพื่ออะไรจำเป็นหรือไม่อาจโดยการจดบันทึกไว้ล่วงหน้า

3. ตั้งงบประมานในการซื้อของต่อเดือนๆ

4. หาแหล่งเงินเก็บที่มีเงินปันผลที่ดีกว่า เพื่อเพิ่มความอยากเก็บให้มากกว่าอยากจ่าย

5. ควรเปรียบเทียบราคาให้ดีระหว่างเวปนั้น เพจนี้ โพสนั้นเพื่อจะได้ของดีและราคาที่เหมาะสมจริงๆ

6.ใช้เวลาให้ตรงตามกำหนดเช่น ต้องทำงานกี่โมงถึงกี่โมงแม้จะเป็นเพียงแม่บ้านก็ตาม

7. จดบันทึกสิ่งของที่อยากได้จริงๆ

8.จำกัดวง แหล่งซื้อขายให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อตัดปัญหาการทำตามกระแส ยึดติดสมัยนิยมใหม่

8. ควรจัดสรรปันส่วนการใช้เงินโดยแบ่งเงินเก็บ/เงินใช้/เงินออมได้

9. ของเก่าที่ยังใช้ได้ อาจนำไปขายมือสองเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนการซื้อของใหม่ แหล่งขายของมือสองมีมากมายอาจโดยตั้งราวขาย ตลาดนัดจนถึงในเวป

10.การหักห้ามใจในการใช้เงินไม่ว่าจะทางออนไลน์หรือใช้เงินสดซื้อมา ข้อนี้ถือว่ายากมากแต่ก็ง่ายมากแค่ไม่ทำ หยุดทำ ละเลิก


ไม่ว่าการใช้เงินจะเป็นไปในทางใด สิ่งที่ได้มาล้วนสนองความอยากมีทั้งสิ้น เมื่อได้มาแล้ว พอแล้ว มากแล้ว ควรแบ่งปันให้สังคม ผู้ด้อยโอกาสบ้างเพื่อเป็นการตอบแทนสังคม การใช้เงินในทางที่เหมาะที่ควร ลดปัญหาการสร้างหนี้ หากทำได้ชีวิตจะสมดุล พอดี เพียงพอ มีกินมีใช้มีเหลือก็น่าจะนับว่า ใช้ชีวิตได้คุ้มค่าแล้ว

หมายเหตุ :
F หมายถึง CONFIRM ยืนยัน ตกลงซื้อสินค้าชิ้นนั้นๆ เป็นสัญลักษณ์ของโลกออนไลน์ เป็นที่รู้กันว่าใคร F ก่อนได้ก่อนเพราะบางครั้งต้องแย่งกันซื้อเลยทีเดียว

พัดลม USB สบู่อาหรับขิง

No comments:

Post a Comment