Sunday, April 17, 2016

เป็นเหาตอนตั้งครรภ์ ทำอย่างไรดี



รู้จักเหา :

"เหา" ที่พบบ่อยในเด็กวัยเรียน เป็นการติดต่อทางการสัมผัสโดยตรง สามารถติดกันได้ง่าย จากการใช้หวี แปรง ร่วมกัน การใช้หมวก ร่วมกัน การใช้หมอน ที่นอนร่วมกัน จากศีรษะคนหนึ่งไปที่ศีรษะอีกคนหนึ่ง ซึ่งหากจะคิดไปแล้วว่าเกิดขึ้นได้แต่วัยเด็กเท่านั้น จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ในผู้ใหญ่ก็สามารถติดได้ด้วยเช่นกันจากการคลุกคลีกับลูกๆ

ของเราเอง ดังประสบการณ์เมื่อตอนตั้งครรภ์ลูกคนเล็กได้ประมาณ 6-7 เดือน รู้สึกคันศีรษะมากและสระผมทุกวันแต่ก็ยังคันอยู่ หลังจากนั้น ประมาณ 10 วันรู้สึกเหมือนมีมดหรือแมลงมาไต่ที่หน้าผากด้วยความไวของมือจึงหยิบมาดูทันที สังเกตลักษณะแล้วเห็นว่าดิ้นเลยจัดการบี้ด้วยความไม่รู้และคาดไม่ถึงจึงไม่ได้สนใจแต่อย่างใด แต่แล้วก็ยังคันศีรษะตลอด พาลนึกไปถึง “เหา” จึงรู้สึกกังวลและลองค้นหาทางอินเตอร์เน็ทซึ่งก็พบว่ามีลักษณะดังกล่าวตรงกับตัวที่เราได้เจอในวันนั้น ด้วยความที่คาดไม่ถึงและไม่ยอมรับความจริงจึงไปดูที่หน้ากระจกอีกครั้ง ดูบริเวณที่คันมากๆ สังเกตเห็นไม่อะไรขาวๆจึงรูดมาลองบีบดู ได้ยินเสียงดังแป๊ะ จึงสรุปได้เลยว่า ไม่ว่าจะอายุเท่าไร เหาก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

จึงถึงเวลาที่ต้องศึกษาอย่างละเอียดแต่ด้วยยังตั้งครรภ์อยู่จึงต้องใช้หลักการหลีกเลี่ยงสารเคมีทุกชนิด ทั้งยาฆ่าเหา น้ำส้มสายชู ผิวมะกรูดซึ่งหายากสำหรับวิถีชีวิตในคอนโดมิเนียม ยิ่งใบน้อยหน่านั้นไม่ต้องกล่าวถึงหรือแม้กระทั่งตัดทิ้งด้วยความเสียดายว่าผมยาว จึง ไม่สามารถทำได้ด้วยประการทั้งปวง จึงจำเป็นที่ต้องหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะรักษาเหาได้ด้วยความปลอดภัยและง่าย

วิธีกำจัด "เหา" โดยไม่ต้องตัดผม ไม่ต้องพึ่งสารเคมีต่างๆ

การเตรียมการ:

1. เตรียมหวีเสนียด(หวีซี่ถี่ๆ หาซื้อได้ง่ายๆที่ตลาดนัด)
2. เบียร์ 1 ขวด
3.ผ้าเช็ดผม แบบที่ตามร้านทำผมใช้เพื่อนำมาหมักผม
4.ขันน้ำ
5.กระดาษสีขาว อาจใช้กระดาษ A4 เพื่อที่จะสังเกตได้ง่ายเมื่อต้องตรวจว่ายังมีหลงเหลืออยู่หรือไม่
6.ครีมนวดผมหรือครีมหมักผมสามารถนำมาใช้ได้หมด
7.น้ำมันมะพร้าว (มีหรือไม่มีก็ได้)

ลงมือทำ:

1. นำผ้าขนหนูที่ยังคงแห้งเตรียมใส่ขัน
2.ก้มศีรษะให้ปลายผมอยู่ในขัน
3.เทเบียร์ลงบนหนังศีรษะให้ทั่วศีรษะ โดยที่เบียร์จะไหลลงไปในขันที่มีผ้า
4.ม้วนผมขึ้นและนำผ้าชุบเบียร์ในขันให้บิดให้หมาด แล้วนำมาพันหมักผมไว้
5 .ทิ้งไว้นานประมาณ3-4 ชม. หรือจนกว่าผ้าเกือบแห้ง
6. แกะผ้าออกซึ่งยังไม่ต้องล้าง ใส่ครีมนวดผม หรือครีมหมักผม พันผ้าไว้อีกครั้งและหมักผมต่ออีกประมาณ15-20 นาที
7.จากนั้นนำหวีเสนียดมาหวีสางออกให้เรื่อยๆจนกว่าจะคาดว่าพอจะหมดแล้ว โดยที่ตัวแม่เหานั้นจะหลุดหล่นลงมาด้วย ในส่วนนี้จะยังไม่หมดไปในทีเดียว หากแต่ต้องทำอีกหลายครั้ง
8.ล้างผมออกด้วยน้ำธรรมดามาหมักผมต่อด้วยน้ำมันมะพร้าว
9.ควรทำวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น โดยใช้ขั้นตอนเดียวกันนี้
10. ทำติดต่อกัน 3-4 วันจนกว่าหรือจนกว่าจะแน่ใจว่าหายแล้ว

เนื่องด้วยจากการเป็นเหานี้ เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ อาจเกิดการดูแลรักษาตัวนั้นค่อนข้างยากอีกทั้งเมื่อต้องภาระจากครอบครัว หรือมีบุตรที่ต้องดูแล งานบ้านที่ต้องทำ จึงทำให้อาจละเลยไป ยิ่งรวมไปถึงการมีเด็กในบ้าน สิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอคือ คอยตรวจตราเส้นผมไม่ว่าจะเด็กผู้ชายหรือผู้หญิงก็มีสิทธิ์เป็นได้ทั้งคู่ มิใช่แต่เด็กผู้หญิงด้วยกันเท่านั้น ผู้ปกครองจึงควรใส่ใจทั้งบุตรของตนเองอีกทั้งคอยสอบถามครูประจำชั้นด้วยเช่นกันว่ามีเด็กคนไหนเป็นด้วยหรือไม่ การแจ้งครูประจำชั้นนั้นสำคัญมากและจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย หมายถึง การคัดแยกเด็กที่สามารถจะแพร่พันธุ์ได้ การใช้หวีแยกหรือควรมีหวีประจำตัวกันไป

รวมไปถึงการแจ้งผู้ปกครองของเด็กทั้งที่เป็นและไม่เป็นให้ช่วยกันสอดส่องดูแลกันให้มากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งการขอความร่วมมือไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนด้วยเช่นกันเพื่อคัดกรอง แยกเด็กที่อาจติดกันจากการมีสังคมนอกห้องเรียน อาทิเช่น การขึ้นรถโรงเรียนด้วยกันนั่งชิดกันเป็นต้น

ดังนั้นเราจะเห็นว่า เรื่องของเหาๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงวัยใดล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เรียกว่า โรคติดต่อ ทั้งสิ้น เราจึงควรใส่ใจดูแลรักษาร่างกาย ผม เล็บให้สะอาดอยู่เสมอ เป็นการสร้างลักษณะนิสัยที่ดีอีกทั้งเป็นการปลูกฝังให้เด็กรู้จักป้องกันตนเองและรู้จักวิธีรักษาได้ต่อไปได้ด้วยเช่นกัน

พัดลมมือถือ สบู่อาหรับขิง

No comments:

Post a Comment